โรคฮิคุยในปลาคาร์พสวยงาม (Hikui Disease in Fancy Crap Fish)
นายสัตวแพทย์คทาวัชร ผัดวัน
คลินิกสัตว์น้ำ ศูนย์สุขภาพช้างและสัตว์ป่า
โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ : aquacmu@gmail.com
ในประเทศไทยปลาคาร์พสวยงามนับว่าเป็นสัตว์น้ำที่นักเลี้ยงปลาให้ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ด้วยสีสันและรวดลายที่สวยงาม รวมถึงมีขนาดตัวที่ใหญ่ เป็นที่ดึงดูดสายตาอย่างมาก ปลาสายพันธุ์หลักที่นักเลี้ยงส่วนใหญ่ต้องมีติดบ่อกันแทบทุกบ้าน คือปลาคาร์พกลุ่มโกซันเก้ (Go-Sanke) ประกอบไปด้วย 3 สายพันธุ์หลัก โคฮากุ (Kohaku) โชว่า (Showa) และซันเก้ (Sanke) พบว่าปลากลุ่มโกซันเก้และอีกหลายสายพันธุ์ เช่น ฮิ อุทสึริ (Hi Utsuri) โกชิกิ(Goshiki) และโกโรโมะ (Koromo) เป็นต้น จะมีลวดลายสีแดงเป็นองค์ประกอบบนลำตัวและหัว (รูปที่ 1) อาจเป็นปัจจัยโน้มนำที่ทำให้เกิดโรคฮิคุยที่ส่งผลต่อความสวยงามและคุณภาพชีวิตของตัวปลาในอนาคตได้
รูปที่ 1 สายพันธุ์ปลาคาร์พที่มีลวดลายสีแดง
โรคฮิคุย (Hikui disease หรือ Cutaneous perivascular wall tumor) คือเนื้องอกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบนผนังหลอดเลือดบริเวณชั้นผิวหนังในตำแหน่งลวดลายที่มีสีแดงด้านบนของลำตัวและหัวของปลาคาร์พ พบว่ารอยโรคของเนื้องอกจะเริ่มจากการมีสีเหลือง-ส้มเป็นจุดๆ เกิดขึ้นบนลวดลายสีแดง (รูปที่ 2) จากนั้นจุดจะค่อยๆ ขยายขนาดเป็นพื้นที่กว้างไปเรื่อยๆ เกิดการบวมนูน และอาจพบรอยแผลหลุม ถุงน้ำ หรือเลือดออกบริเวณก้อนเนื้องอก (รูปที่ 3) ปัจจัยโน้มนำในการเกิดโรคฮิคุยอาจเกิดได้จากสายพันธุ์ปลาคาร์พที่มีสีแดง อายุของปลาที่มากขึ้น การเลี้ยงในบ่อที่ได้รับแสงแดดมากเกินไป เป็นต้น
รูปที่ 2 รอยโรคระยะเริ่มต้นมีสีเหลือง-ส้มเป็นจุดๆ เกิดขึ้นบนลวดลายสีแดง
การตรวจวินิจฉัยสัตวแพทย์จำเป็นต้องแยกโรคฮิคุยออกจากโรคทางผิวหนังอื่นๆ ที่ทำให้เกิดรอยโรคที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ประกอบกับการตรวจร่างกายของปลา ตรวจปรสิตภายนอก คุณภาพน้ำ สถานที่เลี้ยง และสิ่งแวดล้อมรอบๆ เพื่อวางแผนการรักษา โดยการรักษาสามารถทำได้โดยการผ่าตัดเนื้องอกออกหรือการทำแผล การให้ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดและยาลดอักเสบ ยาหรือสารเคมีควบคุมการติดเชื้อปรสิตต่างๆ การรักษาคุณภาพน้ำและการทำร่มเงาเพื่อบังแสงแดดในตอนกลางวัน รวมถึงการให้คำแนะนำต่างๆ อย่างเหมาะสม
รูปที่ 3 รอยโรคมีลักษณะบวมนูน มีแผลหลุด และถุงน้ำ
โรคฮิคุยมีการรายงานในปลาคาร์พสายพันธุ์โกซันเก้ โกชิกิ และโกโรโมะ ที่มีลวดลายสีแดงเป็นองค์ประกอบและปลาที่ไม่มีสีแดงที่เลี้ยงรวมกับปลาป่วยในบ่อ พบได้ในปลาอายุ 5-20 ปี และปลาที่เลี้ยงในบ่อที่ได้รับแสงแดด 50-100% ของช่วงกลางวัน หลังจากการรักษาด้วยความเย็นและการทำแผลพบการเกิดขึ้นซ้ำ
รูปที่ 4 รอยโรคของโรคฮิคุยในปลาคาร์พสายพันธุ์ชีโร่อุทสึริ
ตรวจรักษาและให้คำปรึกษาสัตว์น้ำ
ติดต่อคลินิกสัตว์น้ำ
โทร/ไลน์: 0981034066
Facebook: Aquacmu
บรรณานุกรม
25 ตุลาคม 2566
27 กันยายน 2566
30 มิถุนายน 2566
31 พฤษภาคม 2566
30 เมษายน 2566
31 มีนาคม 2566